ฟอกสีฟันระบบ Cool light
การฟอกสีฟันด้วยระบบ Cool Light เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ฟันขาวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยใช้แสงเย็นเข้ามากระตุ้นเจลฟอกฟันเพื่อเร่งกระบวนการทำให้สีฟันขาวขึ้น นี่คือข้อมูลที่ควรทราบ:
หลักการทำงาน
- เจลฟอกสีฟัน: ใช้เจลที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide)
- แสงเย็น (Cool Light): แสงสีฟ้าความเข้มสูงช่วยกระตุ้นเจลโดยไม่ทำให้เกิดความร้อนที่อาจทำลายเนื้อเยื่อในช่องปาก
ข้อดีของระบบ Cool Light
- ปลอดภัย: ไม่ทำให้ฟันหรือเหงือกระคายเคือง
- รวดเร็ว: ใช้เวลาเพียง 30-60 นาทีต่อการรักษา
- ฟันขาวขึ้นทันที: ผลลัพธ์เห็นได้ชัดหลังการทำ
ขั้นตอนการฟอกสีฟัน
- ทำความสะอาดฟันด้วยการขัดคราบหินปูน
- ป้องกันเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนด้วยเจลหรือวัสดุป้องกัน
- ทาเจลฟอกสีฟันบนผิวฟัน
- ใช้แสงเย็นกระตุ้นเจลในระยะเวลาที่กำหนด
- ล้างเจลออกและตรวจสอบผลลัพธ์
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้ฟันหมอง เช่น ชา กาแฟ หรือไวน์แดง ใน 48 ชั่วโมงหลังการฟอกสีฟัน
- ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนการฟอกสีฟัน เพื่อประเมินสุขภาพฟันและผลข้างเคียง
หากคุณสนใจบริการนี้ ควรสอบถามสถานที่ที่มีผู้เชี่ยวชาญและใช้เทคโนโลยีที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและน่าพึงพอใจ!
ข้อดีของการฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันช่วยเพิ่มความมั่นใจและความน่าสนใจให้กับรอยยิ้ม ซึ่งข้อดีหลัก ๆ ของการฟอกสีฟันมีดังนี้:
1. ฟันขาวขึ้นทันที
- การฟอกสีฟันสามารถปรับสีฟันให้ขาวขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะการฟอกสีฟันแบบมืออาชีพในคลินิกทันตกรรม
2. เพิ่มความมั่นใจ
- ฟันที่ขาวและสะอาดช่วยเสริมบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจในการพูดคุยและเข้าสังคม
3. แก้ไขปัญหาฟันหมองคล้ำ
- ช่วยลดคราบและสีฟันที่เกิดจากการดื่มชา กาแฟ ไวน์แดง หรือการสูบบุหรี่
4. ขั้นตอนปลอดภัยและไม่เจ็บ
- การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน จึงลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองเหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปาก
5. ช่วยดูแลสุขภาพฟันโดยรวม
- ระหว่างการฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพช่องปากและฟันไปด้วย ช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำในการดูแลฟันอย่างเหมาะสม
6. ผลลัพธ์ยาวนาน
- หากดูแลรักษาฟันอย่างถูกวิธี เช่น การแปรงฟันและหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ฟันหมอง ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันสามารถอยู่ได้นานหลายเดือนถึงหลายปี
7. สร้างความประทับใจ
- รอยยิ้มที่ขาวสดใสช่วยสร้างความประทับใจในโอกาสสำคัญ เช่น การสัมภาษณ์งาน การพบปะลูกค้า หรือวันแต่งงาน
8. เป็นตัวเลือกที่ประหยัดเวลา
- การฟอกสีฟันในคลินิกใช้เวลาเพียง 30-60 นาที แต่ให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด
หากคุณต้องการรอยยิ้มที่ขาวสดใสและมั่นใจ การฟอกสีฟันเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงามและสุขภาพฟัน! 🦷✨
ฟอกสีฟันอยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ แต่โดยทั่วไปแล้ว ฟันขาวจากการฟอกสีสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี หรือมากกว่านั้นหากดูแลอย่างเหมาะสม
ปัจจัยที่มีผลต่อความยาวนานของผลลัพธ์
- พฤติกรรมการบริโภค
- อาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำอัดลม และอาหารที่มีสีเทียม อาจทำให้ฟันหมองคล้ำเร็วขึ้น
- การสูบบุหรี่หรือเคี้ยวหมากฝรั่งที่มีสารเคมีอาจทำให้ฟันกลับมามีคราบได้เร็ว
- การดูแลหลังการฟอกสีฟัน
- การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอช่วยลดการสะสมของคราบบนผิวฟัน
- ใช้ยาสีฟันสำหรับฟันขาวเพื่อช่วยรักษาผลลัพธ์
- สุขภาพฟันและเนื้อฟัน
- คนที่มีเนื้อฟันธรรมชาติเหลืองอาจกลับมาหมองคล้ำเร็วกว่า
- สุขภาพของเหงือกและฟันมีผลต่อการสะสมคราบ
- ประเภทของการฟอกสีฟัน
- การฟอกสีฟันในคลินิกโดยทันตแพทย์ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่บ้าน
วิธีการยืดอายุผลลัพธ์ของฟันขาว
- หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้มในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังการฟอกสีฟัน
- ใช้หลอดดูดสำหรับเครื่องดื่มที่อาจทำให้ฟันเปื้อน
- แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันเพื่อกำจัดคราบพลัค
- พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและทำความสะอาดฟันตามกำหนด
หากดูแลดี ฟันที่ผ่านการฟอกสีสามารถขาวสดใสได้เป็นเวลานาน และคุณสามารถกลับมาฟอกสีฟันซ้ำได้เมื่อจำเป็น

ฟอกสีฟันต้องขูดหินปูนก่อนไหม
การฟอกสีฟันควรขูดหินปูนก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเพื่อความปลอดภัย โดยมีเหตุผลสำคัญดังนี้:
เหตุผลที่ต้องขูดหินปูนก่อนการฟอกสีฟัน
- กำจัดคราบสะสมบนฟัน
- หินปูนและคราบพลัคที่สะสมบนผิวฟันจะขัดขวางการทำงานของเจลฟอกสีฟัน ทำให้ฟันไม่ขาวเท่าที่ควร
- ป้องกันการระคายเคือง
- การฟอกสีฟันบนฟันที่มีหินปูนหรือคราบสะสม อาจทำให้เหงือกหรือเนื้อเยื่อในช่องปากระคายเคือง
- ช่วยให้เจลฟอกฟันทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
- เมื่อผิวฟันสะอาด เจลฟอกสีฟันจะสามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวฟันได้ดีขึ้น ส่งผลให้ฟันขาวเร็วและสม่ำเสมอ
- ตรวจสุขภาพฟันก่อนการฟอกสี
- การขูดหินปูนช่วยให้ทันตแพทย์สามารถตรวจสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันผุ หรือเหงือกอักเสบ ซึ่งอาจต้องรักษาก่อนการฟอกสี
ขั้นตอนที่ควรทำก่อนการฟอกสีฟัน
- ขูดหินปูน: ทำความสะอาดคราบสะสมและคราบหินปูนบนผิวฟัน
- ขัดฟัน: ขัดคราบต่าง ๆ เช่น คราบชา กาแฟ หรือคราบอาหารออกจากผิวฟัน
- ประเมินสุขภาพฟัน: ตรวจดูฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือปัญหาอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการฟอกสี
ประโยชน์จากการขูดหินปูนก่อนการฟอกสีฟัน
- ช่วยป้องกันผลข้างเคียง เช่น เหงือกอักเสบหรือระคายเคือง
- ทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและผลลัพธ์สม่ำเสมอ
การขูดหินปูนเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดก่อนการฟอกสีฟัน 😊
ฟอกสีฟันทำให้ฟันบางลงไหม
การฟอกสีฟัน ไม่ทำให้ฟันบางลง หากดำเนินการอย่างถูกต้องและอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ แต่ในบางกรณีอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้รู้สึกเหมือนฟันบางลงหรือเสียวฟัน ซึ่งเกิดจากปัจจัยดังนี้:
เหตุผลที่คนอาจคิดว่าฟันบางลง
- การเสียวฟันชั่วคราว
- หลังการฟอกสีฟัน เจลฟอกสีอาจทำให้ชั้นเนื้อฟัน (Enamel) เปิดรูพรุนชั่วคราว ส่งผลให้เส้นประสาทในฟันไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น อาหารร้อนหรือเย็น
- ความรู้สึกนี้จะหายไปเองภายใน 1-3 วันหลังการฟอกสี
- ความแห้งของฟันหลังการฟอกสี
- เจลฟอกสีฟันอาจทำให้ฟันแห้งชั่วคราว ทำให้ฟันดูโปร่งแสงหรือดูเหมือนบางลง ซึ่งจะกลับคืนสู่สภาพปกติหลังฟันได้รับความชุ่มชื้นจากน้ำลาย
กระบวนการฟอกสีฟันมีผลกระทบต่อชั้นฟันหรือไม่?
- การฟอกสีฟันโดยใช้เจลที่ปลอดภัย (เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์) ไม่ส่งผลต่อความหนาหรือโครงสร้างของชั้นเคลือบฟัน (Enamel)
- หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีสารกัดกร่อน อาจส่งผลเสียต่อชั้นเคลือบฟันได้
วิธีลดผลข้างเคียงหลังการฟอกสีฟัน
- ใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน
- ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรต (Potassium Nitrate) ช่วยลดความไวของเส้นประสาทในฟัน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเป็นกรดสูง
- เช่น น้ำอัดลม น้ำมะนาว หรือของดอง หลังการฟอกสีฟัน
- ให้ฟันพักจากการฟอกสี
- หากฟอกสีฟันซ้ำบ่อยเกินไป อาจทำให้ฟันอ่อนแอลงได้ ควรเว้นระยะห่างระหว่างการฟอกอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี
ข้อสรุป
การฟอกสีฟันที่ดำเนินการอย่างถูกวิธีจะไม่ทำให้ฟันบางลง แต่ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนและหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ฟันขาวขึ้นอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี