อุดฟันอุบลราชธานี ฟันผุรักษาได้

การอุดฟันเป็นกระบวนการทางทันตกรรมที่ช่วยรักษาฟันที่เกิดการสึกกร่อนจากการเกิดฟันผุ ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถพบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน การอุดฟันไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันไม่ให้ฟันผุขยายออกไปมากกว่านี้ แต่ยังช่วยให้ฟันสามารถใช้งานได้เหมือนเดิมทั้งในเรื่องของการบดเคี้ยวและการพูด ดังนั้น การอุดฟันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการดูแลรักษาฟันและสุขภาพช่องปากโดยรวม

ทำไมถึงต้องอุดฟัน?

ฟันผุเกิดขึ้นเมื่อกรดจากแบคทีเรียที่สะสมอยู่ในคราบจุลินทรีย์หรือพลัคที่ฟันทำปฏิกิริยากับน้ำตาลในอาหาร จนทำให้แร่ธาตุจากฟันสลายไป เมื่อเวลาผ่านไปฟันจะเริ่มผุหรือมีรู ซึ่งในระยะแรกของฟันผุอาจไม่แสดงอาการมากนัก แต่เมื่อฟันผุไปเรื่อยๆ จะเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก ทำให้เกิดอาการปวดฟัน อักเสบ หรือฟันแตกหักได้

การอุดฟันจึงเป็นการรักษาที่ทันเวลาสำหรับฟันที่ผุ โดยการเติมวัสดุที่เหมาะสมเข้าไปในรูฟันเพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียหรือกรดเข้าไปทำลายชั้นในของฟัน ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อหรือปัญหาที่รุนแรงกว่าในอนาคต

ประเภทของการอุดฟัน

การอุดฟันมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และลักษณะของปัญหาฟันที่ต้องการรักษา ดังนี้:

  1. การอุดฟันด้วยวัสดุอะมัลกัม (Amalgam)
    อะมัลกัมเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการอุดฟันมานานหลายปี โดยเฉพาะฟันกรามซึ่งมักต้องรับแรงบดเคี้ยวมาก วัสดุอะมัลกัมประกอบด้วยโลหะ เช่น เงิน ปรอท ทองแดง และดีบุก ซึ่งมีความทนทานสูง ทนต่อแรงบดเคี้ยวได้ดี แต่มีข้อเสียคือลักษณะสีของมันจะเป็นสีเทาหรือเงิน ซึ่งทำให้เห็นได้ง่าย ทำให้ไม่ค่อยนิยมใช้กับฟันหน้าที่ต้องการความสวยงาม
  2. การอุดฟันด้วยวัสดุคอมโพสิต (Composite Resin)
    วัสดุคอมโพสิตเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการอุดฟันที่มองเห็น เพราะมีสีใกล้เคียงกับสีฟันธรรมชาติ ซึ่งทำให้ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามมากกว่าอะมัลกัม เหมาะสำหรับการอุดฟันหน้าหรือฟันที่เห็นได้ง่าย แต่ในแง่ของความทนทานอาจจะไม่เท่ากับอะมัลกัม จึงต้องมีการดูแลอย่างดีเพื่อป้องกันการสึกหรอ
  3. การอุดฟันด้วยวัสดุเซรามิค (Ceramic)
    วัสดุเซรามิคให้ความสวยงามใกล้เคียงกับสีฟันธรรมชาติและทนทานต่อการสึกหรอได้ดี แต่อาจมีราคาค่อนข้างสูงและใช้เวลาในการทำมากกว่า การอุดฟันแบบเซรามิคเหมาะกับฟันที่มีการเสียหายอย่างมาก และเหมาะกับการอุดฟันหน้ามากที่สุด เพราะมีความใกล้เคียงกับสีฟันธรรมชาติสูง
  4. การอุดฟันด้วยวัสดุทองคำ (Gold)
    ทองคำเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการสึกหรอได้ดีและสามารถใช้งานได้ยาวนาน แต่มักจะมีราคาสูงกว่าวัสดุประเภทอื่นๆ และไม่เหมาะกับฟันที่มองเห็น เพราะสีทองคำอาจจะไม่สอดคล้องกับสีฟันที่ดูเป็นธรรมชาติ
  5. การอุดฟันด้วยวัสดุเรซินผสม (Glass Ionomer)
    วัสดุนี้จะเหมาะกับการอุดฟันที่มีขนาดเล็กหรือการอุดฟันในบริเวณที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการกัดกร่อนจากกรดในช่องปาก เช่น ฟันกรามส่วนบนที่มีโอกาสสัมผัสกับกรดจากกระเพาะอาหาร วัสดุนี้จะช่วยป้องกันฟันจากการผุได้ดี โดยยังสามารถปล่อยฟลูออไรด์ออกมาเพื่อป้องกันฟันผุในอนาคต
อุดฟันอุบลราชธานี
อุดฟันอุบลราชธานี

การดูแลหลังการอุดฟัน

หลังจากการอุดฟันเสร็จสิ้น การดูแลช่องปากให้สะอาดและสุขภาพดีเป็นสิ่งสำคัญในการยืดอายุการใช้งานของฟันที่อุด การดูแลหลังการอุดฟันที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนหรืออุดฟันหลุดออกจากตำแหน่ง ดังนี้:

  1. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว
    ในช่วงหลังการอุดฟัน ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียว เช่น ขนมหมากฝรั่ง ลูกอมแข็ง หรืออาหารที่มีเนื้อแข็งมาก เพราะจะสามารถทำให้วัสดุที่อุดฟันหลุดหรือแตกร้าวได้
  2. แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันให้สะอาด
    หลังการอุดฟัน ควรแปรงฟันให้สะอาดทุกครั้งหลังทานอาหาร และใช้ไหมขัดฟันเพื่อล้างทำความสะอาดซอกฟันที่อาจจะยังมีเศษอาหารหลงเหลืออยู่ การใช้ไหมขัดฟันจะช่วยทำความสะอาดระหว่างฟันที่อุดและฟันข้างเคียงได้ดี
  3. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีกรด
    เครื่องดื่มที่มีกรด เช่น น้ำผลไม้ น้ำอัดลม หรือกาแฟสามารถทำให้วัสดุที่อุดฟันเกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ในช่วง 24 ชั่วโมงหลังการอุดฟัน
  4. ตรวจสอบการอุดฟันเป็นประจำ
    ควรไปพบทันตแพทย์ตามกำหนดเพื่อให้หมอฟันตรวจสอบการอุดฟันว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ บางครั้งวัสดุที่ใช้ในการอุดฟันอาจเกิดการสึกหรอหรือลดประสิทธิภาพลง ทำให้ฟันกลับมาผุใหม่ได้
  5. รักษาสุขภาพช่องปากโดยรวม
    การดูแลช่องปากให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุใหม่ในอนาคต ควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง และตรวจสุขภาพฟันอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน

สรุป การอุดฟันเป็นวิธีการรักษาฟันที่มีความสำคัญในการป้องกันไม่ให้ฟันผุขยายไปมากกว่านี้ การเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับลักษณะของฟันและความต้องการของผู้ป่วยจะช่วยให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด นอกจากนี้การดูแลหลังการอุดฟันอย่างเหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญในการยืดอายุการใช้งานของฟันที่อุดให้ยาวนานและป้องกันปัญหาฟันผุใหม่ในอนาคต การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่องและการพบทันตแพทย์เป็นประจำจะช่วยรักษาสุขภาพฟันและช่องปากให้ดีได้อย่างยั่งยืน.