ฟันผุเกิดจากอะไร
ฟันผุเกิดจากกระบวนการที่เรียกว่า การสูญเสียแร่ธาตุในฟัน ซึ่งมาจากการทำลายของแบคทีเรียในปากที่รวมตัวกับน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่เรารับประทาน แบคทีเรียจะสร้างกรดที่ทำให้สารเคลือบฟันหรือเนื้อฟันอ่อนแอลง เมื่อเวลาผ่านไป กรดเหล่านี้จะทำให้ฟันเริ่มสูญเสียแร่ธาตุและเกิดโพรงในฟัน หรือที่เรียกว่า “ฟันผุ”
ปัจจัยที่เพิ่มโอกาสเกิดฟันผุได้แก่:
- การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม และของกินเล่นที่มีน้ำตาล
- การแปรงฟันไม่สะอาดหรือไม่สม่ำเสมอ ซึ่งทำให้คราบแบคทีเรียสะสมอยู่บนผิวฟัน
- ปากแห้งหรือการผลิตน้ำลายน้อยลง น้ำลายมีหน้าที่ช่วยชะล้างแบคทีเรียและกรดในปาก
- พันธุกรรมและรูปทรงฟัน ซึ่งบางคนอาจมีฟันที่มีรูปร่างและโครงสร้างที่ทำให้ทำความสะอาดได้ยากกว่าคนอื่น
การป้องกันฟันผุสามารถทำได้โดยการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ ลดการบริโภคน้ำตาล และไปพบทันตแพทย์เพื่อทำความสะอาดฟันและตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ
จะรู้ได้ยังไงว่าฟันผุ
การสังเกตว่าฟันผุหรือไม่นั้น สามารถดูได้จากอาการและสัญญาณต่าง ๆ ต่อไปนี้:
- อาการเสียวฟัน – เมื่อทานของร้อน เย็น หวาน หรือเปรี้ยว แล้วรู้สึกเสียวฟัน อาจเป็นสัญญาณของฟันผุ โดยเฉพาะในระยะเริ่มต้น
- อาการปวดฟันหรือปวดเมื่อเคี้ยวอาหาร – ถ้ารู้สึกปวดฟันหรือเจ็บเมื่อกดหรือเคี้ยวอาหาร อาจแปลว่าฟันผุลุกลามเข้าสู่ชั้นเนื้อฟันหรือประสาทฟัน
- ฟันเปลี่ยนสีหรือมีจุดสีดำหรือน้ำตาล – การเห็นจุดดำหรือสีน้ำตาลบนฟันอาจบ่งบอกว่าฟันผุกำลังเกิดขึ้น
- กลิ่นปากหรือรสชาติไม่พึงประสงค์ในปาก – ฟันผุที่ลุกลามอาจทำให้เกิดกลิ่นปากหรือรสชาติแปลก ๆ ในปาก เนื่องจากมีแบคทีเรียสะสม
- มีรูหรือโพรงบนฟัน – เมื่อฟันผุในระยะที่ลึกขึ้น อาจเห็นรูหรือโพรงชัดเจนบนฟัน โดยเฉพาะหากใช้ลิ้นสัมผัส
หากสงสัยว่าฟันผุ ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันอย่างละเอียด ทันตแพทย์จะสามารถใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ เช่น การเอกซเรย์ เพื่อตรวจหาฟันผุในระยะแรก ๆ และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม
บอกลาฟันผุ ปวดฟัน ไม่ต้องทนอีกต่อไป คลินิกรักษาฟันผุ อุบล ให้เราช่วยดูแลฟันคุณด้วยการรักษาที่ทันสมัยและไร้ความเจ็บปวด ปรึกษาคุณหมอได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ
ฟันผุระยะแรกเป็นยังไง
ฟันผุในระยะแรกมักมีลักษณะและสัญญาณที่ยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่สามารถสังเกตได้ ดังนี้:
- ฟันมีจุดสีขาวขุ่น – จุดขาว ๆ นี้เกิดจากการสูญเสียแร่ธาตุในผิวเคลือบฟัน ทำให้ฟันดูไม่ใสหรือขุ่นขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณแรก ๆ ของฟันผุ
- ไม่มีอาการปวดหรือเสียวฟันชัดเจน – ในระยะแรกนี้มักจะยังไม่รู้สึกเจ็บหรือเสียวฟัน ยกเว้นในบางกรณีที่อาจเริ่มรู้สึกเสียวเมื่อทานของเย็นจัดหรือหวานจัด
- ผิวฟันเริ่มหยาบขึ้น – เมื่อใช้ลิ้นสัมผัสอาจรู้สึกว่าผิวฟันไม่เรียบเหมือนเดิม หรือมีความหยาบขึ้นในบริเวณที่เริ่มผุ
- ไม่มีโพรงหรือรูที่มองเห็นได้ – ฟันผุในระยะแรกยังไม่มีโพรงลึกหรือรูที่ชัดเจน แต่ถ้าปล่อยไว้อาจพัฒนาไปสู่การเกิดรูหรือโพรงที่ใหญ่ขึ้น
การสังเกตและป้องกันฟันผุในระยะแรกสามารถช่วยให้ฟันยังคงแข็งแรงได้ หากตรวจพบในระยะแรก ๆ สามารถใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ในการช่วยเสริมแร่ธาตุให้กับฟัน หรือไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจและรับคำแนะนำในการดูแล
ฟันผุสามารถหายเองได้ไหม
ฟันผุไม่สามารถหายเองได้ แต่สามารถ หยุดการลุกลาม หรือ ฟื้นฟูในระยะแรก ได้ หากดูแลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในกรณีที่ฟันผุยังไม่ลึกจนถึงเนื้อฟันหรือประสาทฟัน ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้:
- ฟลูออไรด์ – การใช้ยาสีฟันหรือเจลที่มีฟลูออไรด์สามารถช่วยเสริมแร่ธาตุให้กับฟัน ทำให้ฟันแข็งแรงขึ้นและสามารถหยุดการลุกลามของฟันผุในระยะแรก ๆ ได้
- การดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอ – การแปรงฟันอย่างถูกวิธีทุกวัน วันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันช่วยกำจัดคราบแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของฟันผุ
- ลดน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตในอาหาร – การลดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือแป้งสูง จะช่วยลดโอกาสการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ
- พบทันตแพทย์เป็นประจำ – การตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือนช่วยให้ทันตแพทย์สามารถตรวจพบฟันผุในระยะแรกและช่วยป้องกันไม่ให้ลุกลาม
หากฟันผุเริ่มมีโพรงหรือรูแล้ว การใช้ฟลูออไรด์หรือการดูแลทั่วไปจะไม่สามารถทำให้ฟันกลับมาเป็นปกติได้ และจำเป็นต้องได้รับการรักษา เช่น การอุดฟันจากทันตแพทย์
รักษาฟันผุโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์ หยุด อาการปวดฟัน เพื่อรอยยิ้มที่สดใสและสุขภาพฟันที่แข็งแรง คลินิกรักษาฟันผุ อุบล นัดหมายพร้อมให้คำปรึกษานะคะ
ฟันผุลุกลามเร็วแค่ไหน
การลุกลามของฟันผุนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยและสามารถเกิดขึ้นได้เร็วหรือช้าแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ปัจจัยที่มีผลต่อความเร็วในการลุกลามของฟันผุ ได้แก่:
- พฤติกรรมการรับประทานอาหาร – การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือแป้งบ่อยครั้ง โดยเฉพาะขนมหวาน น้ำอัดลม และของว่างที่มีน้ำตาล สามารถเพิ่มความเร็วในการลุกลามของฟันผุได้ เพราะน้ำตาลเป็นแหล่งพลังงานสำหรับแบคทีเรียในการสร้างกรดทำลายผิวฟัน
- การดูแลช่องปาก – หากแปรงฟันไม่ถูกวิธี หรือไม่สม่ำเสมอ จะทำให้คราบแบคทีเรียสะสมบนฟันมากขึ้น ฟันจึงมีโอกาสผุลุกลามเร็วขึ้น การใช้ไหมขัดฟันไม่ถูกต้องหรือไม่ใช้เลยก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน
- น้ำลาย – น้ำลายมีหน้าที่ช่วยล้างคราบอาหารและแบคทีเรียออกจากฟัน หากมีการผลิตน้ำลายน้อยหรือปากแห้งจะทำให้ฟันผุลุกลามเร็วขึ้น เนื่องจากน้ำลายไม่สามารถช่วยล้างกรดหรือคราบแบคทีเรียได้เพียงพอ
- ตำแหน่งและโครงสร้างของฟัน – ฟันที่มีร่องลึกหรือฟันกรามที่ยากต่อการทำความสะอาดจะมีโอกาสผุเร็วขึ้น รวมถึงฟันที่ติดกันแน่น ทำให้การแปรงฟันเข้าไม่ถึงจึงมีโอกาสเกิดฟันผุได้ง่าย
- อายุและพันธุกรรม – ในบางคนมีโครงสร้างฟันที่เปราะหรือไวต่อการผุจากพันธุกรรม รวมถึงอายุที่มากขึ้นก็อาจทำให้เกิดฟันผุได้ง่ายขึ้น
โดยปกติฟันผุในระยะแรก ๆ อาจใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปีในการลุกลามจนถึงขั้นที่มีอาการชัดเจน แต่ในกรณีที่ปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ มีมาก การลุกลามของฟันผุอาจเกิดขึ้นได้เร็วภายในไม่กี่เดือน
ฟันผุไม่ควรกินอะไร
หากมีฟันผุหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดฟันผุ ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่อาจทำให้ฟันผุรุนแรงขึ้น ดังนี้:
- อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาล ลูกอม หรือช็อกโกแลต เพราะน้ำตาลเป็นอาหารให้แบคทีเรียในช่องปากสร้างกรดที่ทำลายเคลือบฟันได้ง่ายขึ้น - อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง
ขนมปัง ขนมกรุบกรอบ มันฝรั่งทอด ข้าวหรือเส้นก๋วยเตี๋ยว คาร์โบไฮเดรตจะถูกย่อยเป็นน้ำตาลในปากซึ่งส่งผลให้เกิดฟันผุได้เช่นกัน - อาหารเหนียวและติดฟัน
อาหารเช่น กัมมี่ ขนมเหนียว ลูกกวาด หรือผลไม้อบแห้ง (เช่น ลูกเกด อินทผาลัม) มีแนวโน้มที่จะติดตามซอกฟันและเป็นอาหารของแบคทีเรียได้ดีมาก ทำให้ฟันผุเร็วขึ้น - เครื่องดื่มที่มีกรดสูง
น้ำอัดลม น้ำมะนาว น้ำส้ม หรือน้ำผลไม้เปรี้ยว ๆ อื่น ๆ แม้จะไม่มีน้ำตาลแต่กรดก็สามารถทำให้ผิวเคลือบฟันอ่อนลงและเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ - แอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้ปากแห้งได้ เนื่องจากลดการผลิตน้ำลาย และน้ำลายมีหน้าที่ในการช่วยปกป้องฟันจากการผุ
อาหารที่ควรเลือกทานแทน:
- ผลไม้สด (เช่น แอปเปิล แครอท) ที่มีเส้นใยสูงและสามารถช่วยทำความสะอาดฟัน
- น้ำเปล่า แทนการดื่มน้ำหวานหรือน้ำอัดลม
- ชีสและโยเกิร์ต ซึ่งมีแคลเซียมและช่วยรักษาค่า pH ในปาก
ฟันผุแบบไหนไม่ต้องอุด
ฟันผุบางประเภทอาจไม่จำเป็นต้องอุด หากฟันผุนั้นยังอยู่ใน ระยะแรก ๆ หรือ ระยะผิวเคลือบฟัน และยังไม่ลุกลามเข้าสู่เนื้อฟันหรือโพรงฟัน โดยสภาวะฟันผุที่ไม่ต้องอุดมีลักษณะดังนี้:
- ฟันผุระยะแรกที่เป็นจุดขาวขุ่น (White Spot Lesions)
ฟันผุในระยะแรกจะมีจุดขาวขุ่นเกิดขึ้นที่ผิวเคลือบฟัน ซึ่งยังไม่ได้ลึกถึงชั้นเนื้อฟัน ในกรณีนี้สามารถหยุดการลุกลามได้โดยใช้ ฟลูออไรด์ เช่น ยาสีฟันหรือเจลที่มีฟลูออไรด์ รวมถึงการดูแลทำความสะอาดฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ - ฟันผุที่สามารถย้อนกลับได้ด้วยการเสริมแร่ธาตุ (Remineralization)
ฟันผุในระยะแรกสามารถฟื้นฟูได้โดยการเสริมแร่ธาตุ เช่น แคลเซียมและฟลูออไรด์ ซึ่งช่วยให้แร่ธาตุกลับคืนสู่ผิวฟันและทำให้ฟันแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฟลูออไรด์และการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีจะช่วยให้ฟันผุในระยะแรกหยุดการลุกลาม - ฟันผุในจุดที่สามารถเข้าถึงและทำความสะอาดได้ดี
หากฟันผุยังไม่ลุกลามและสามารถทำความสะอาดได้ง่าย โดยเฉพาะในบริเวณที่แปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันถึง การดูแลความสะอาดและลดการรับประทานน้ำตาลก็อาจเพียงพอที่จะป้องกันการลุกลามของฟันผุได้
ทั้งนี้ การประเมินว่าฟันผุประเภทใดไม่จำเป็นต้องอุดควรได้รับการตรวจสอบจากทันตแพทย์ เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสม
ทำไมบางคนถึงฟันผุง่าย
บางคนฟันผุง่ายกว่าคนอื่นเนื่องจากปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อสุขภาพฟันและความไวต่อการเกิดฟันผุ ซึ่งรวมถึง:
- พันธุกรรม
โครงสร้างฟันและความแข็งแรงของเคลือบฟันอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคนจากพันธุกรรม บางคนอาจมีเคลือบฟันที่บางหรือเปราะกว่าทำให้ฟันผุง่ายขึ้น - ปริมาณและคุณภาพของน้ำลาย
น้ำลายช่วยล้างคราบอาหารและกรดจากแบคทีเรียในปาก จึงช่วยป้องกันฟันผุได้ คนที่มีปัญหาน้ำลายน้อยหรือปากแห้ง เช่น ผู้ที่ใช้ยาบางชนิดหรือผู้ที่มีโรคที่ส่งผลต่อการผลิตน้ำลาย จะมีความเสี่ยงที่จะฟันผุได้ง่ายขึ้น - พฤติกรรมการรับประทานอาหาร
การทานของหวาน น้ำอัดลม หรืออาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงบ่อย ๆ จะเพิ่มปริมาณน้ำตาลในปากซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุได้มากขึ้น - การดูแลสุขภาพช่องปาก
การแปรงฟันไม่ถูกวิธีหรือไม่สม่ำเสมอ รวมถึงการไม่ใช้ไหมขัดฟันหรือไม่ได้ทำความสะอาดช่องปากอย่างเพียงพอ จะทำให้คราบแบคทีเรียสะสมได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ฟันผุเร็วขึ้น - โครงสร้างและตำแหน่งของฟัน
ฟันที่มีร่องลึกหรือฟันที่เรียงตัวแน่นเกินไป ทำให้ทำความสะอาดได้ยากและเกิดฟันผุง่ายขึ้น เนื่องจากแปรงฟันหรือไหมขัดฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกซอกมุม - สภาวะสุขภาพและการใช้ยา
ผู้ที่มีโรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องใช้ยาที่ทำให้ปากแห้ง จะมีความเสี่ยงต่อการฟันผุสูงขึ้น เพราะสภาวะของร่างกายที่ไม่สมบูรณ์และการผลิตน้ำลายที่ลดลง - ค่า pH ในช่องปาก
บางคนมีค่า pH ในปากที่เป็นกรดมากกว่า ซึ่งจะทำให้เคลือบฟันอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการผุได้ง่าย การปรับค่า pH เช่น การเคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาลหรือล้างปากด้วยน้ำเปล่าหลังทานอาหาร อาจช่วยให้สมดุลในปากดีขึ้น
การเข้าใจปัจจัยที่ทำให้ฟันผุง่าย จะช่วยให้สามารถปรับพฤติกรรมหรือรับการรักษาที่เหมาะสม เช่น การพบทันตแพทย์สม่ำเสมอ และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฟลูออไรด์
ฟันผุแบบไหนอันตราย
ฟันผุที่อันตรายคือฟันผุที่ลุกลามจนเกิดความเสียหายลึกและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพฟันและสุขภาพโดยรวมได้ โดยฟันผุที่อันตรายมีลักษณะดังนี้:
- ฟันผุที่ลุกลามถึงชั้นเนื้อฟัน (Dentin)
เมื่อฟันผุถึงชั้นเนื้อฟัน จะทำให้เสียวฟันมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับความร้อน เย็น หรือหวาน ฟันผุในระดับนี้ต้องได้รับการรักษาโดยทันตแพทย์เพื่อป้องกันการลุกลามไปถึงโพรงประสาทฟัน - ฟันผุที่ลุกลามถึงโพรงประสาทฟัน (Pulp)
หากฟันผุลึกจนถึงโพรงประสาทฟัน จะเกิดการอักเสบและปวดมาก ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อและเกิดหนองในรากฟัน (Dental Abscess) ฟันผุที่ถึงระดับนี้อาจต้องรักษารากฟันเพื่อกำจัดการติดเชื้อและป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย - ฟันผุที่มีการติดเชื้อรุนแรง
ฟันผุที่มีหนองเกิดขึ้นที่รากฟันหรือในเนื้อเยื่อรอบ ๆ รากฟันสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง และหากไม่ได้รับการรักษา เชื้อแบคทีเรียอาจแพร่กระจายไปสู่กระแสเลือดหรือส่วนอื่นของร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม - ฟันผุที่ส่งผลต่อฟันซี่ข้างเคียง
ฟันผุที่เกิดขึ้นระหว่างซี่ฟันหรือในบริเวณที่ฟันติดกันแน่น อาจทำให้ฟันซี่ข้างเคียงผุไปด้วย นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของฟันหรือการเรียงตัวผิดปกติได้ - ฟันผุในเด็กเล็ก
ฟันผุในเด็กอาจส่งผลกระทบต่อฟันแท้ที่อยู่ข้างใต้หรือพัฒนาการทางช่องปากของเด็ก หากไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในช่องปากหรือทำให้ฟันแท้ขึ้นผิดตำแหน่ง
หากมีฟันผุที่ลึกหรือมีอาการปวดมาก ควรรีบพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว เพื่อป้องกันการลุกลามของการติดเชื้อและผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
ฟันผุเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่ถ้าปล่อยไว้ก็อาจลุกลาม รีบรักษาวันนี้เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ให้เราช่วยฟื้นฟูสุขภาพฟันของคุณ คลินิกรักษาฟันผุ อุบล บริการรักษาฟันผุ อุดฟัน รักษารากฟัน พร้อมดูแลฟันของคุณค่ะ
ทำยังไงไม่ให้ฟันผุ
การป้องกันฟันผุสามารถทำได้ด้วยการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ และการปรับพฤติกรรมต่าง ๆ ดังนี้:
- แปรงฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ
แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง คือเช้าและก่อนนอน โดยใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเคลือบฟันและป้องกันฟันผุ ควรแปรงฟันอย่างน้อย 2 นาทีและแปรงทุกส่วนของฟัน - ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน
ไหมขัดฟันช่วยทำความสะอาดซอกฟันที่แปรงฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ การขจัดเศษอาหารและคราบแบคทีเรียจากซอกฟันช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ - หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
ลดการบริโภคน้ำตาล ขนมหวาน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ชาไข่มุก เพราะน้ำตาลจะเป็นอาหารให้แบคทีเรียสร้างกรดทำลายฟัน หรือล้างปากด้วยน้ำเปล่าหลังทานอาหารเหล่านี้ - ลดการบริโภคอาหารที่มีกรดสูง
เช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว และน้ำอัดลม เพราะกรดจะกัดกร่อนเคลือบฟัน ควรดื่มน้ำเปล่าตามหลังจากบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีกรดสูงเพื่อลดกรดในปาก - ดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ
น้ำเปล่าช่วยล้างคราบแบคทีเรียและเศษอาหารในปาก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับช่องปาก โดยเฉพาะผู้ที่ปากแห้งหรือน้ำลายน้อย - เคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล
ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลายซึ่งทำหน้าที่ล้างคราบแบคทีเรียและรักษาสมดุลค่า pH ในปาก น้ำลายที่มากขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดฟันผุ - พบทันตแพทย์เป็นประจำ
ควรตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือนเพื่อตรวจหาฟันผุในระยะแรกและรับคำแนะนำในการดูแลฟันที่เหมาะสม ทันตแพทย์อาจแนะนำให้เคลือบฟลูออไรด์หรือเคลือบหลุมร่องฟันเพื่อป้องกันฟันผุ - รับฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสม
นอกจากการใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ อาจพิจารณาการใช้เจลฟลูออไรด์เสริม (หลังจากปรึกษาทันตแพทย์) เพราะฟลูออไรด์จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับฟันและป้องกันการเกิดฟันผุ
วิธีรักษาฟันผุ
วิธีการรักษาฟันผุมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระยะและความลึกของฟันผุ โดยทั่วไปมีวิธีการรักษาดังนี้:
- การอุดฟัน (Dental Filling)
หากฟันผุไม่ลึกมากจนถึงโพรงประสาทฟัน ทันตแพทย์จะทำการขูดฟันผุออกและอุดฟันด้วยวัสดุที่เหมาะสม เช่น คอมโพสิต (วัสดุสีเหมือนฟัน) หรืออมัลกัม (วัสดุสีเงิน) เพื่อป้องกันการลุกลาม - การเคลือบฟลูออไรด์ (Fluoride Treatment)
หากฟันผุในระยะแรกหรือยังเป็นจุดขาวขุ่น ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ทำการเคลือบฟลูออไรด์เพื่อช่วยเสริมแร่ธาตุให้กับฟันและหยุดการลุกลามของฟันผุในระยะเริ่มต้น - การรักษารากฟัน (Root Canal Treatment)
หากฟันผุลึกถึงโพรงประสาทฟันและเกิดการติดเชื้อ ทันตแพทย์จะทำการรักษารากฟัน โดยการกำจัดเนื้อฟันและประสาทฟันที่ติดเชื้อ จากนั้นทำความสะอาดและอุดรากฟันให้แน่น เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ - การครอบฟัน (Dental Crown)
หากฟันผุเสียหายมากจนโครงสร้างฟันอ่อนแอ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ครอบฟัน เพื่อปกป้องและเสริมความแข็งแรงให้กับฟัน โดยการครอบฟันจะช่วยให้ฟันไม่แตกหรือเสียหายเพิ่มเติม - การถอนฟัน (Tooth Extraction)
ในกรณีที่ฟันผุอย่างรุนแรงและไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้ หรือมีการติดเชื้อรุนแรงที่ไม่สามารถรักษาได้ การถอนฟันอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หลังการรักษา ควรดูแลสุขภาพช่องปากอย่างดีเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันผุซ้ำ โดยการแปรงฟันสม่ำเสมอ ใช้ไหมขัดฟัน และพบทันตแพทย์เป็นประจำ