ทดแทนรากฟันธรรมชาติ คลินิกทำรากฟันเทียมอุบลราชธานี ได้ฟันที่ใช้งานได้ดีและแข็งแรงขึ้น

ทำไมต้องทำรากฟันเทียม

การทำรากฟันเทียม (dental implants) เป็นทางเลือกในการทดแทนฟันที่หายไป ซึ่งมีหลายเหตุผลที่ทำให้ผู้คนเลือกทำรากฟันเทียม ดังนี้:

  1. การคืนความสมบูรณ์ของฟัน: รากฟันเทียมช่วยฟื้นฟูฟันที่หายไปหรือเสียหาย ทำให้สามารถเคี้ยวอาหารได้เหมือนเดิม ช่วยให้มีความมั่นใจในการพูดและยิ้ม
  2. ป้องกันการสูญเสียกระดูก: เมื่อฟันหายไป กระดูกขากรรไกรอาจฝ่อลงได้ การทำรากฟันเทียมจะช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกใหม่ในบริเวณที่สูญเสียฟัน ซึ่งช่วยป้องกันการฝ่อลงของกระดูกขากรรไกร
  3. มีความทนทานและยาวนาน: รากฟันเทียมทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น ไททาเนียม ซึ่งสามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปีเมื่อดูแลอย่างถูกต้อง
  4. ความสวยงามและเป็นธรรมชาติ: รากฟันเทียมสามารถทำให้ดูเหมือนฟันธรรมชาติได้ดีมาก ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในรูปลักษณ์
  5. ไม่กระทบฟันข้างเคียง: ต่างจากสะพานฟันที่ต้องใช้ฟันข้างเคียงในการรองรับ รากฟันเทียมไม่ต้องพึ่งพาฟันข้างเคียง ซึ่งช่วยรักษาฟันที่เหลือให้อยู่ในสภาพดี

การทำรากฟันเทียมจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการฟันที่ดูดีและใช้งานได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกระทบกับฟันข้างเคียง.

ฟันผุขนาดไหนหมอถึงให้ทำรากฟันเทียม

การทำรากฟันเทียมจะพิจารณาจากความรุนแรงของการผุและความเสียหายของฟัน โดยทั่วไปจะพิจารณาในกรณีต่อไปนี้:

  1. ฟันผุหรือเสียหายจนไม่สามารถบูรณะได้: หากฟันผุไปจนถึงรากหรือมีการแตกหักที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ด้วยการอุดฟันหรือการทำครอบฟัน (crown) ฟันนั้นอาจต้องถูกถอนออกและทำรากฟันเทียมแทน
  2. ฟันผุเรื้อรังที่มีการติดเชื้อที่รากฟัน: หากฟันผุจนทำให้เกิดการติดเชื้อที่รากฟัน และการรักษารากฟัน (root canal) ไม่สามารถแก้ไขได้ การทำรากฟันเทียมอาจเป็นทางเลือกเพื่อทดแทนฟันที่เสียหาย
  3. ฟันที่มีการสึกหรอมากเกินไป: ฟันที่มีการสึกหรอหรือผุจนเหลือเนื้อฟันเพียงเล็กน้อยอาจไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่น เช่น การทำครอบฟัน การทำรากฟันเทียมจะเป็นทางเลือกในการทดแทนฟัน
  4. ฟันที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่น: ในกรณีที่ฟันได้รับความเสียหายมากจนไม่สามารถรักษาด้วยการบูรณะหรือการรักษารากฟันแล้ว การทำรากฟันเทียมจะเป็นทางเลือกที่ดี

การทำรากฟันเทียมจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับฟันที่เสียหายมากหรือฟันที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ด้วยวิธีอื่น ๆ และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ฟันได้เหมือนเดิมทั้งในเรื่องของการเคี้ยวและความสวยงาม.

การทำรากฟันเทียมมีกี่แบบ

การทำรากฟันเทียมมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของฟันที่ต้องการทดแทนและเทคนิคการติดตั้งที่ใช้โดยทันตแพทย์ โดยทั่วไปจะมี 3 แบบหลัก ๆ ดังนี้:

  1. รากฟันเทียมแบบ Endosteal Implant (แบบฝังในกระดูก)
    • เป็นประเภทที่ใช้กันมากที่สุด โดยจะฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูกขากรรไกร (กระดูกบริเวณที่ฟันหายไป) และจะใช้เวลารอให้กระดูกเชื่อมต่อกับรากฟันเทียม (Osseointegration) ประมาณ 3-6 เดือน
    • เหมาะสำหรับคนที่มีปริมาณกระดูกขากรรไกรเพียงพอและสามารถรองรับรากฟันเทียมได้
  2. รากฟันเทียมแบบ Subperiosteal Implant (แบบฝังใต้เยื่อบุเหงือก)
    • วิธีนี้จะใช้ในกรณีที่กระดูกขากรรไกรไม่เพียงพอ หรือไม่สามารถรองรับรากฟันเทียมแบบฝังในกระดูกได้
    • รากฟันเทียมจะวางอยู่ใต้เยื่อบุเหงือกและไม่ฝังลึกลงไปในกระดูก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากระดูกขากรรไกรที่ไม่สามารถสร้างใหม่ได้
    • มีการใช้น้อยในปัจจุบัน เนื่องจากการฝังแบบ Endosteal ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
  3. รากฟันเทียมแบบ Zygomatic Implant (แบบฝังในกระดูกโหนกแก้ม)
    • วิธีนี้ใช้ในกรณีที่กระดูกขากรรไกรบนไม่เพียงพอหรือสึกหรอมาก โดยการฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูกโหนกแก้มแทน
    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากระดูกขากรรไกรบน (Maxilla) ที่เสียหายมาก และไม่สามารถฝังรากฟันเทียมในกระดูกขากรรไกรได้

นอกจากนี้ ยังมี รากฟันเทียมแบบทันที (Immediate Implant) ที่สามารถฝังรากฟันเทียมในทันทีหลังจากถอนฟัน แต่ต้องพิจารณาความเหมาะสมตามสภาพของกระดูกและฟันที่เหลืออยู่

แต่ละแบบมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพฟันและกระดูกของผู้ป่วยที่ต้องการการรักษา.

ทำรากฟันเทียมแล้วมีวิธีดูแลยังไง

หลังจากการทำรากฟันเทียมเสร็จแล้ว การดูแลรักษาฟันเทียมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ฟันเทียมอยู่ในสภาพดีและยาวนาน รวมถึงช่วยป้องกันการเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อหรือการอักเสบ นี่คือวิธีการดูแลรากฟันเทียม:

1. รักษาความสะอาดช่องปาก

  • แปรงฟัน: แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้แปรงฟันที่มีขนนุ่มและยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ อย่าลืมแปรงบริเวณรากฟันเทียมด้วย ให้สะอาดและไม่มีคราบจุลินทรีย์
  • การใช้ไหมขัดฟัน: ใช้ไหมขัดฟันระหว่างฟันและบริเวณรากฟันเทียมเพื่อขจัดเศษอาหารและจุลินทรีย์ที่อาจตกค้าง
  • น้ำยาบ้วนปาก: ใช้น้ำยาบ้วนปากที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคและช่วยรักษาความสะอาด

2. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียวในช่วงแรก

  • ในช่วงที่ฟันเทียมยังไม่เชื่อมกับกระดูก (ประมาณ 3-6 เดือน) ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียว เพื่อไม่ให้รากฟันเทียมเสียหายหรือเคลื่อนที่
  • ควรเคี้ยวอาหารด้านที่ไม่มีการทำรากฟันเทียมในช่วงแรก

3. ไปพบแพทย์ตามนัด

  • ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อของรากฟันเทียมกับกระดูก (Osseointegration) และตรวจสอบว่ามีปัญหาหรือไม่
  • ถ้ามีอาการปวด บวม หรือแสดงอาการผิดปกติ ควรติดต่อแพทย์ทันที

4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่

  • การสูบบุหรี่จะทำให้กระบวนการเชื่อมต่อระหว่างกระดูกและรากฟันเทียมช้าลง และยังเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือการล้มเหลวของการปลูกฝังรากฟันเทียม

5. ควบคุมการรับประทานอาหาร

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความร้อนหรือเย็นจัดในช่วงแรก เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองที่บริเวณฟันเทียม
  • ควรรับประทานอาหารที่อ่อนนุ่มในช่วงระยะเวลาแรกหลังการฝังรากฟันเทียม

6. การจัดการกับอาการบวมและเจ็บปวด

  • ในช่วง 1-2 วันแรกหลังการทำรากฟันเทียมอาจมีอาการบวมและปวดเล็กน้อย สามารถใช้ยาแก้ปวดตามคำแนะนำของแพทย์
  • การประคบเย็นที่บริเวณบวมสามารถช่วยลดอาการบวมได้

การดูแลรากฟันเทียมอย่างถูกต้องและการปฏิบัติตามคำแนะนำจากทันตแพทย์จะช่วยให้ฟันเทียมใช้งานได้อย่างยาวนานและปลอดภัย.

รากฟันเทียมใช้งานได้นานแค่ไหน

รากฟันเทียมสามารถใช้งานได้นาน โดยเฉลี่ยประมาณ 10-20 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้นหากได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมและมีสภาพช่องปากที่ดี การใช้งานที่ยาวนานขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น:

  1. การดูแลรักษาความสะอาดช่องปาก: การแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอและการใช้ไหมขัดฟันช่วยป้องกันการสะสมของคราบจุลินทรีย์ ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อที่รากฟันเทียม
  2. สุขภาพช่องปากโดยรวม: การรักษาสุขภาพฟันและเหงือกที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการมีเหงือกที่แข็งแรงจะช่วยให้รากฟันเทียมมั่นคงอยู่ในที่เดิม
  3. การตรวจสอบและบำรุงรักษากับทันตแพทย์: ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อให้ตรวจสอบความสมบูรณ์ของรากฟันเทียมและทำความสะอาดหรือปรับปรุงในกรณีที่มีปัญหา
  4. พฤติกรรมการใช้ฟัน: การหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือการทำกิจกรรมที่เสี่ยงทำให้ฟันเทียมเกิดความเสียหาย เช่น การกัดของแข็ง หรือการสูบบุหรี่

หากรักษาความสะอาดและดูแลรากฟันเทียมอย่างดี รากฟันเทียมสามารถอยู่ได้ยาวนานและทำหน้าที่ได้ดีในการทดแทนฟันธรรมชาติ.