กินของเย็นแล้วปวดฟัน

ทำไมกินของเย็นแล้วรู้สึกปวดฟัน

การที่กินของเย็นแล้วรู้สึกปวดฟันนั้นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น:

  1. ฟันผุ: ฟันที่ผุหรือมีรอยร้าวอาจทำให้เนื้อฟันที่เป็นเนื้ออ่อนสัมผัสกับอากาศเย็นหรือของเย็นได้ ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดฟันได้
  2. เสียวฟัน: บางคนอาจมีฟันที่เสียวเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิที่เย็น ซึ่งอาจเกิดจากการที่เคลือบฟันหรือเนื้อฟันถูกสึกหรอไป ทำให้เนื้อฟันด้านใน (ที่มีปลายประสาท) ถูกกระตุ้น
  3. โรคเหงือก: หากเหงือกยุบตัวลงและเปิดเผยเนื้อฟันที่อยู่ใกล้เหงือก อาจทำให้ฟันบอบบางและเกิดอาการปวดเมื่อสัมผัสกับอากาศเย็น
  4. ฟันที่อุดไม่ดี: หากการอุดฟันไม่สมบูรณ์ หรือวัสดุอุดฟันไม่แน่นหนา อาจทำให้เกิดช่องว่างที่ทำให้ฟันเกิดอาการปวดได้

หากปวดฟันบ่อยๆ หรือปวดที่รุนแรง ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

กินของเย็นแล้วปวดฟันมีวิธีแก้เบื้องต้นยังไงบ้าง

ถ้ากินของเย็นแล้วปวดฟันและต้องการวิธีแก้เบื้องต้น สามารถลองทำตามนี้ได้:

  1. ใช้ยาสีฟันสำหรับฟันเสียว: ยาสีฟันที่ออกแบบมาสำหรับฟันเสียวจะช่วยลดความเสียวของฟันได้ โดยมีสารที่ช่วยปิดผนึกท่อลำเลียงประสาทในเนื้อฟัน ทำให้ปวดฟันน้อยลง
  2. หลีกเลี่ยงของเย็นหรือร้อน: พยายามหลีกเลี่ยงการกินของเย็นหรือร้อนจัดในช่วงที่รู้สึกปวดฟัน เพราะความเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอาจทำให้ฟันเสียวหรือปวดมากขึ้น
  3. หลีกเลี่ยงการใช้ฟันที่ปวด: หากรู้สึกปวดฟันด้านใดด้านหนึ่ง ให้พยายามใช้ฟันด้านอื่นในการเคี้ยวอาหารเพื่อลดความรู้สึกไม่สบาย
  4. การใช้ผงเกลือหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์: สามารถบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เจือจาง เพื่อช่วยลดการติดเชื้อและอาการอักเสบ
  5. ใช้แผ่นยาชาบริเวณฟัน: หากอาการปวดรุนแรงสามารถใช้ยาชาเฉพาะที่ เช่น เจลหรือแผ่นที่มีสารที่ช่วยบรรเทาความปวดฟันได้ชั่วคราว
  6. ประคบเย็น: การประคบเย็นที่บริเวณข้างแก้มในจุดที่ปวดฟันอาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้

หากอาการปวดฟันยังไม่หายหรือเกิดขึ้นบ่อยๆ ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบและรักษาให้ตรงกับสาเหตุค่ะ