ฟันแตกจากการเคี้ยวของแข็ง ต้องทำครอบฟันหรือมีวิธีอื่นในการรักษา
การฟันแตกจากการเคี้ยวของแข็งสามารถรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการแตกและส่วนที่แตกของฟัน ซึ่งมีตัวเลือกในการรักษาดังนี้:
- การทำครอบฟัน (Crown): หากฟันแตกเป็นส่วนใหญ่หรือมีการสูญเสียเนื้อฟันไปมาก การทำครอบฟันอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากครอบฟันสามารถปกป้องฟันจากการแตกเพิ่มเติมและยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้ฟัน
- การอุดฟัน (Filling): หากฟันแตกเป็นเพียงแค่รอยร้าวเล็กน้อย หรือส่วนของฟันไม่ได้เสียหายมาก การอุดฟันด้วยวัสดุที่เหมาะสม เช่น คอมโพสิตหรืออะมัลกาเมก็สามารถทำได้
- การรักษารากฟัน (Root Canal Treatment): หากฟันแตกไปถึงเนื้อเยื่อภายในฟันหรือเส้นประสาท อาจต้องทำการรักษารากฟันก่อนที่จะทำการครอบฟันเพื่อรักษาความอยู่รอดของฟัน
- การถอนฟัน: ในกรณีที่ฟันแตกมากจนไม่สามารถซ่อมแซมหรือทำครอบฟันได้ การถอนฟันแล้วใช้ฟันปลอม หรือการปลูกฟันใหม่ (Implant) อาจเป็นทางเลือกที่จำเป็น
ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินอาการและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพของฟันและความต้องการของคุณค่ะ
การครอบฟันที่แตกมีกี่แบบ
การทำครอบฟันมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกครอบฟันนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพฟันของผู้ป่วย โดยสามารถแบ่งประเภทครอบฟันหลักๆ ได้ดังนี้:
1. ครอบฟันโลหะ (Metal Crown)
- วัสดุ: ทำจากโลหะผสม เช่น ทองคำ หรือโลหะชนิดอื่นๆ
- ข้อดี: ทนทาน แข็งแรงมาก เหมาะสำหรับฟันกรามที่ต้องรับแรงเคี้ยวมากๆ
- ข้อเสีย: สีไม่เหมือนฟันธรรมชาติ ทำให้เห็นได้ชัดในกรณีที่ใช้กับฟันหน้า
2. ครอบฟันเซรามิก (Porcelain Crown)
- วัสดุ: ทำจากเซรามิกหรือพอร์ซเลน
- ข้อดี: สีและลักษณะคล้ายฟันธรรมชาติ ทำให้ไม่เห็นความแตกต่างในฟันหน้า
- ข้อเสีย: อาจจะไม่ทนทานเท่าครอบฟันโลหะเมื่อใช้กับฟันที่รับแรงเคี้ยวสูง
3. ครอบฟันผสมเซรามิกและโลหะ (Porcelain-Fused-to-Metal Crown)
- วัสดุ: มีโลหะเป็นโครงภายในแล้วเคลือบด้วยเซรามิก
- ข้อดี: ให้ความสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติและมีความทนทานจากโลหะภายใน
- ข้อเสีย: บางครั้งอาจจะเห็นขอบโลหะที่ฐานของฟันได้ (ถ้าเหงือกร่น)
4. ครอบฟันเรซินคอมโพสิต (Resin Composite Crown)
- วัสดุ: ทำจากเรซินคอมโพสิตที่มีลักษณะคล้ายฟันธรรมชาติ
- ข้อดี: สามารถปรับสีให้เหมือนฟันได้ดี
- ข้อเสีย: ทนทานน้อยกว่าเซรามิกและโลหะ เหมาะสำหรับฟันที่ไม่ต้องการรับแรงเคี้ยวมาก
5. ครอบฟันซิเลียม (Zirconia Crown)
- วัสดุ: ทำจากซิเลียม (วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง)
- ข้อดี: แข็งแรง ทนทานต่อการเคี้ยว และมีลักษณะใกล้เคียงฟันธรรมชาติ
- ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง
6. ครอบฟันโลหะ-เซรามิกผสม (Metal-Ceramic Crown)
- วัสดุ: เป็นการผสมกันระหว่างโลหะและเซรามิก
- ข้อดี: แข็งแรง แต่ก็สามารถคงรูปลักษณ์ที่ใกล้เคียงฟันธรรมชาติ
- ข้อเสีย: ขอบของครอบฟันอาจเห็นได้ในกรณีที่มีการเหงือกร่น
การเลือกประเภทของครอบฟัน:
- ถ้าเน้นความสวยงาม ควรเลือก ครอบฟันเซรามิก หรือ ครอบฟันผสมเซรามิกและโลหะ ที่เหมาะกับฟันหน้า
- หากต้องการความแข็งแรงสูงและไม่สนใจเรื่องความสวยงามเท่าไหร่ ครอบฟันโลหะ หรือ ครอบฟันซิเลียม อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี
การเลือกชนิดของครอบฟันขึ้นอยู่กับการประเมินจากทันตแพทย์และความต้องการของผู้ป่วยค่ะ

หลังจากครอบฟันที่แตกแล้ว สามารถเคี้ยวอาหารได้ปกติหรือไม่
หลังจากทำการครอบฟันแล้ว โดยทั่วไปคุณสามารถเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการในช่วงเวลาหลังจากการทำครอบฟัน:
1. ช่วงเวลาแรกหลังทำครอบฟัน:
- ระวังการเคี้ยวของแข็ง: ในช่วงที่เพิ่งทำครอบฟันเสร็จใหม่ๆ ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียวมากๆ (เช่น น้ำแข็ง, ลูกอมแข็ง, หรือถั่วแข็ง) เพราะอาจทำให้ครอบฟันหลุดหรือเสียหายได้
- เคี้ยวด้วยฟันฝั่งที่ไม่มีการทำครอบฟัน: หากคุณรู้สึกไม่สะดวกในการเคี้ยวด้วยฟันที่ทำครอบแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวหนักๆ ด้วยฟันนั้นในช่วงแรก และใช้ฟันอีกข้างในการเคี้ยวแทน
2. การดูแลครอบฟันระยะยาว:
- ฟันที่ครอบจะยังคงทนทาน: เมื่อเวลาผ่านไปครอบฟันจะมีความทนทานและสามารถรับแรงเคี้ยวได้ดี โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้วัสดุที่แข็งแรงเช่นโลหะหรือซิเลียม
- การทำความสะอาด: ต้องระวังการทำความสะอาดครอบฟันให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของคราบอาหารที่อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพฟันอื่นๆ ตามมา
- ตรวจเช็คเป็นระยะ: ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คสถานะของครอบฟันและตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ
3. คำแนะนำเพิ่มเติม:
- หากครอบฟันที่ทำมีขนาดใหญ่หรือครอบฟันที่ทำบนฟันกรามซึ่งต้องรับแรงเคี้ยวมาก ควรใช้ความระมัดระวังในการเคี้ยวอาหารที่มีความแข็ง
- หากรู้สึกปวดหรือมีอาการไม่สบายหลังการทำครอบฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการดูแลเพิ่มเติม
โดยรวมแล้ว หลังจากการทำครอบฟันเสร็จ คุณสามารถเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ แต่ควรให้เวลาฟันฟื้นตัวและหลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็งหรือเหนียวในช่วงแรกเพื่อให้ครอบฟันมีความทนทานยาวนานค่ะ
ทำครอบฟันอยู่ได้นานเท่าไหร่
อายุการใช้งานของครอบฟันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงประเภทของวัสดุที่ใช้ทำครอบฟัน, การดูแลรักษาฟัน, และการใช้งานของฟันนั้นๆ แต่โดยทั่วไปแล้วครอบฟันสามารถใช้งานได้ประมาณ 5-15 ปี หรือบางกรณีอาจจะยาวนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสิ่งต่างๆ ดังนี้:
1. ประเภทของวัสดุที่ใช้:
- ครอบฟันโลหะ (เช่น ทองคำหรือโลหะผสม) มักจะทนทานที่สุดและสามารถใช้งานได้ยาวนานประมาณ 15 ปีหรือมากกว่านั้น
- ครอบฟันเซรามิก หรือ ครอบฟันซิเลียม อาจมีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี แต่ก็อาจจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นหากมีการเคี้ยวของแข็งหรือมีแรงเคี้ยวที่สูง
- ครอบฟันผสมเซรามิกและโลหะ จะมีอายุประมาณ 10-15 ปี เนื่องจากมีความทนทานทั้งในด้านการรับแรงเคี้ยวและความสวยงาม
2. การดูแลรักษา:
- การทำความสะอาด: หากครอบฟันได้รับการดูแลรักษาความสะอาดอย่างดี เช่น การแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ, ใช้ไหมขัดฟัน, และการทำความสะอาดระหว่างร่องฟัน ฟันที่ครอบสามารถใช้งานได้นานขึ้น
- การหลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็ง: การเคี้ยวของแข็งหรือเหนียวเกินไปอาจทำให้ครอบฟันหลุดหรือแตกได้ การหลีกเลี่ยงจะช่วยยืดอายุการใช้งาน
- การไปพบทันตแพทย์เป็นระยะ: การตรวจเช็คและการดูแลจากทันตแพทย์จะช่วยให้ฟันและครอบฟันของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
3. สาเหตุที่อาจทำให้ต้องเปลี่ยนครอบฟัน:
- การแตกหรือหลุด: หากครอบฟันเสียหายจากการเคี้ยวของแข็งหรือแรงกดที่สูง อาจต้องเปลี่ยนใหม่
- การเสื่อมสภาพของวัสดุ: วัสดุบางชนิดอาจเกิดการเสื่อมสภาพจากการใช้งานและสภาพแวดล้อมในช่องปาก
- การเกิดฟันผุใต้ครอบฟัน: หากฟันที่อยู่ใต้ครอบฟันเริ่มผุ หรือมีปัญหาที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ อาจต้องทำครอบฟันใหม่
โดยทั่วไปแล้ว หากครอบฟันไม่ได้รับการบำรุงรักษาที่ดี หรือมีปัญหาหลังจากใช้งานไปหลายปี เช่น รอยร้าวหรือการหลุด ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อประเมินว่าควรทำการเปลี่ยนครอบฟันใหม่หรือไม่ค่ะ