ทำสะพานฟันคืออะไร
สะพานฟัน คือ การรักษาทางทันตกรรมที่ใช้สำหรับแทนฟันที่หายไป โดยการใช้ฟันที่ยังคงอยู่ข้างเคียงของช่องว่างฟันเพื่อรองรับสะพานฟันที่ทำจากวัสดุต่างๆ เช่น โลหะ, เซรามิก หรือคอมโพสิต สะพานฟันจะถูกติดตั้งเพื่อเติมช่องว่างที่เกิดจากฟันหายไปและช่วยให้การบดเคี้ยวหรือการพูดไม่ถูกรบกวน การทำสะพานฟันอาจจะต้องกรอหรือปรับฟันข้างเคียงเพื่อให้ฟิตกับสะพานฟันที่เตรียมไว้
ฟันมีปัญหาแบบไหนที่ต้องทำสะพานฟัน
การทำสะพานฟันมักจะใช้ในกรณีที่ฟันหายไปหรือเสียหายจากหลายสาเหตุ เช่น:
- ฟันหายไป: เมื่อฟันหายไปจากการเกิดอุบัติเหตุ, การเจ็บป่วย, หรือฟันผุจนไม่สามารถรักษาให้กลับมาปกติได้ การทำสะพานฟันจะช่วยเติมเต็มช่องว่างนั้น โดยใช้ฟันที่ยังคงอยู่ข้างเคียงในการรองรับสะพานฟันที่ใช้แทนฟันที่หายไป
- ฟันผุรุนแรงหรือเสียหายมาก: ถ้าฟันมีการผุหรือเสียหายมากจนไม่สามารถบูรณะหรือครอบฟันได้ การทำสะพานฟันอาจเป็นทางเลือกในการทดแทนฟันที่เสียหาย
- ฟันที่ไม่สามารถรักษารากฟันได้: หากฟันมีการติดเชื้อในรากฟันที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการรักษารากฟัน การทำสะพานฟันอาจเป็นวิธีทดแทนฟันที่เสียหายแทนฟันที่ถูกถอนออก
สะพานฟันช่วยเพิ่มความสะดวกในการบดเคี้ยว และป้องกันปัญหาจากการขยับของฟันข้างเคียงในช่องปากเมื่อฟันหายไป
ข้อดีและข้อเสียของการทำสะพานฟัน
ข้อดีของการทำสะพานฟัน:
- ฟันที่หายไปกลับมาใช้งานได้: สะพานฟันช่วยทดแทนฟันที่หายไป ทำให้การบดเคี้ยวอาหารและการพูดสะดวกขึ้น
- การทำฟันที่ทดแทนได้รวดเร็ว: การทำสะพานฟันเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับการทำรากฟันเทียม (Implants) และไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
- คงความสวยงาม: สะพานฟันที่ทำจากวัสดุเซรามิกหรือวัสดุที่มีความเหมือนฟันธรรมชาติช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและสวยงาม
- ป้องกันการเคลื่อนตัวของฟันข้างเคียง: เมื่อฟันหายไป ฟันข้างเคียงอาจเคลื่อนที่ไปในช่องว่าง การทำสะพานฟันช่วยป้องกันไม่ให้ฟันข้างเคียงเคลื่อนที่
- ไม่ต้องผ่าตัด: แตกต่างจากรากฟันเทียมที่ต้องมีการผ่าตัด สะพานฟันเป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด

ข้อเสียของการทำสะพานฟัน:
- การกรอฟันข้างเคียง: ฟันข้างเคียงที่ใช้รองรับสะพานฟันอาจต้องถูกกรอเพื่อติดสะพานฟัน ซึ่งอาจทำให้ฟันเหล่านั้นเสียหายหรือลดความแข็งแรง
- การเสียโครงสร้างของฟันข้างเคียง: การกรอฟันข้างเคียงอาจทำให้ฟันเหล่านั้นมีความเสี่ยงที่จะเสียหายหรือผุได้มากขึ้น
- ความทนทานน้อยกว่ารากฟันเทียม: สะพานฟันมีอายุการใช้งานจำกัด (ประมาณ 10-15 ปี) และอาจต้องเปลี่ยนใหม่ในอนาคต ในขณะที่รากฟันเทียมมีความทนทานกว่า
- ความไม่สะดวกในการทำความสะอาด: การทำสะพานฟันอาจทำให้การทำความสะอาดในพื้นที่ใต้สะพานเป็นเรื่องยาก ซึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมของคราบพลัคและหินปูนได้
- อาจไม่เหมาะสมกับฟันที่มีการหายไปหลายซี่: หากมีฟันหายไปหลายซี่ การทำสะพานฟันอาจจะไม่เหมาะสม เนื่องจากการรองรับสะพานฟันต้องใช้ฟันข้างเคียงที่แข็งแรง ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับการรองรับสะพานฟันที่ยาวเกินไป
การเลือกทำสะพานฟันหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของฟันที่หายไปและความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณค่ะ
ทำสะพานฟันแล้วจะมีวิธีดูแลรักษายังไง
การดูแลรักษาสะพานฟันหลังการทำเสร็จเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความสะอาดในช่องปาก ซึ่งมีวิธีการดูแลดังนี้:
1. ทำความสะอาดฟันและสะพานฟันอย่างสม่ำเสมอ
- แปรงฟัน: ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่มและยาสีฟันที่ไม่ทำลายฟัน สวมใส่แปรงในท่าที่ถูกต้องเพื่อลดการสะสมของคราบพลัค
- แปรงระหว่างฟัน: ใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงฟันระหว่างฟัน (interdental brush) เพื่อทำความสะอาดระหว่างสะพานฟันและฟันข้างเคียง เพราะสิ่งสกปรกมักสะสมในพื้นที่ที่แปรงฟันเข้าถึงได้ยาก
2. ใช้ไหมขัดฟัน
- ใช้ไหมขัดฟันหรือไหมขัดฟันแบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดใต้สะพานฟันและฟันข้างเคียง ควรใช้วิธีที่ระมัดระวังเพื่อไม่ให้ทำลายสะพานฟันหรือฟันข้างเคียง
3. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็งหรือเหนียว
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียว เช่น น้ำแข็ง ขนมเหนียว หรืออาหารที่สามารถทำให้สะพานฟันหลุดหรือแตกได้
4. ไปพบทันตแพทย์ตามนัด
- ควรไปตรวจสอบสุขภาพช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอ (ทุก 6 เดือน) เพื่อให้ทันตแพทย์ตรวจดูสะพานฟันและทำการตรวจสุขภาพฟันโดยรวม
5. รักษาสุขภาพเหงือก
- การดูแลเหงือกให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเหงือกที่อักเสบหรือมีปัญหาจะสามารถทำให้สะพานฟันหลวมได้ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพเหงือก เช่น ยาสีฟันสำหรับเหงือกอักเสบ
6. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- การสูบบุหรี่สามารถทำให้เกิดการสะสมของคราบพลัคและลดอายุการใช้งานของสะพานฟันได้ ควรหลีกเลี่ยงหรือลดการสูบบุหรี่
การดูแลรักษาสะพานฟันอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอจะช่วยให้สะพานฟันทำงานได้ดีและยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น